ตะกรุดเนื้อเงิน ปี 2510 เป็นโลหะชนิดเดียวกันกับ ตะกรุดเนื้อเงินที่สอดไว้ในองค์พระเครื่องของหลวงปู่โต๊ะ

ตะกรุดที่สร้างปี 2510 มีด้วยกันสามเนื้อ - ตะกั่ว - ทองแดง - เงิน
จำนวนการจัดสร้างไม่แน่นอน
เนื้อตะกั่ว กับ เนื้อทองแดง จะมีการตอกโค๊ด “ต” อยู่ในดอกจัน มีทั้งหนึ่งโค๊ด, สองโค๊ด, และสามโค๊ต
ส่วนเนื้อเงิน จะมีการตอกสองโค๊ด “ต” กับ “ปพ”


ตะกรุดเนื้อเงินของหลวงปู่โต๊ะมีลักษณะที่แตกต่างออกไปจากตะกรุดเนื้อเงินของที่อื่นๆ
เราพอทราบแล้วว่า ที่บอกตะกรุดเนื้อเงินนั้น ไม่ได้เป็นโลหะเงินจริงๆ เป็นเงินที่เรียกกันว่า “แปะตั้ง” หรือ “เงินแปะตั้ง” ส่วนภาษาทางการจะเรียกว่า “เงินนิกเกิล”
“แปะตั้ง” เป็นภาษาจีน แปลเป็นภาษาไทยว่า “ทองแดงขาว”
ทองแดงขาวมีโลหะผสมดังนี้
ทองแดงขาว = ทองแดง + สังกะสี + นิกเกิล
“ทองแดงขาว” มีอีกชื่อว่า “ทองเหลืองขาว” เราอาจจะงงว่าทองเหลืองเป็นทองแดงได้ยังไง เราก็ต้องไปดูส่วนประกอบ ของทองเหลืองกันก่อน
ทองเหลือง = ทองแดง + สังกะสี
โลหะหลักของทองเหลืองก็คือ ทองแดง เมื่อเราผสมนิกเกิลลงไปในทองเหลือง ก็จะกลายเป็น “ทองแดงขาว” หรือ “ทองเหลืองขาว” นั้นเอง
นิกเกิลในเนื้อเงินแปะตั้ง จะทำให้โลหะมีลักษณะที่ขาวใสมากขึ้น เมื่อมีลักษณะคล้ายเงิน เลยมีอีกชื่อที่เรียกว่า “เงินนิกเกิล”
เราพอสรุปได้ว่า “แปะตั้ง”, “เงินแปะตั้ง”, “ทองแดงขาว”, “ทองเหลืองขาว”, และ “เงินนิกเกิล” ก็คือโลหะชนิดเดียวกันทั้งหมด
แล้วด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ เราสามารถพิสูจน์เนื้อโลหะ โดยการนำไปทดสอบหาค่าของโลหะได้ ซึ่งใช้เวลาอันรวดเร็ว และไม่ทำให้เกิดการเสียหายต่อสิ่งของด้วย
จากการนำตะกรุดเนื้อเงินดอกนี้ ไปทดสอบหาค่าของโลหะ ได้ค่าเปอร์เซ็นต์ของโลหะดังนี้

เราสามารถยืนยันได้ว่าตะกรุดเนื้อเงินของหลวงปู่ เป็นเงินแปะตั้งจริง เพราะว่ามีทองแดงเป็นโลหะหลัก แล้วมีสังกะสีกับนิเกิลเป็นโลหะผสม ตามเปอร์เซ็นต์ที่เห็น
แต่ที่เกินจากความคาดหมายคือมีโลหะเหล็ก กับเงินจริงๆผสมอยู่ด้วย น่าจะเป็นส่วนผสมในสูตรของแต่ละร้านที่ทำเงินแปะตั้ง
ที่นี้เรามาดูว่าทำไมเงินแปะตั้งทำให้ตะกรุดและพระเครื่องของหลวงปู่ ง่ายต่อการเก็บสะสม
เมื่อเราทราบแล้วว่าตะกรุดและตะกรุดที่อยู่ในพระเครื่องเป็น “เงินแปะตั้ง” จะด้วยเหตุผลใดก็ตามที่ทางวัดนำมาใช้
เมื่อเราพิจารณาตะกรุด ถ้าเราดูแล้วเป็นโลหะชนิดอื่นๆ เราสามารถคัดออกได้เลย และเนื่องจากเงินแปะตั้งเป็นโลหะผสม ทำให้ยากต่อการปลอมแปลง สูตรผสมของโลหะแต่ละยุคสมัยจะไม่เหมือนกัน ตามความต้องการและความนิยมของคนในยุคสมัยนั้นๆ
เราสามารถดูสีและความมันเงาของเนื้อโลหะ เพื่อใช้ประกอบในการพิจารณาพระเครื่องและตะกรุดได้
Comments