top of page
รูปภาพนักเขียนกรณ์ บูลากอน

ตอนที่ 4 ยันต์สุกิตติมา

ยันต์สุกิตติมา หรือที่เราเรียกกันสั้นๆง่ายๆว่า “ยันต์ดวง” ยันต์สุกิตติมามีอีกชื่อว่า “ยันต์มหาละลวย”

จัมโบ้ 2 เนื้อผงธูป
จัมโบ้ 2 เนื้อเกสร
จัมโบ้ 2 เนื้อใบลาน









ยันต์นี้มีพุทธคุณทางด้านหนุนดวง ฟื้นดวงชะตาให้กลับจากร้ายกลายเป็นดี ให้ความเมตตามหานิยมสูงมาก และยังมีอนุภาพในการขับไล่เสนียดจัญไรด้วย เรียกได้ว่ามีทั้งรุกและรับในยันต์เดียวกันเลย


ใครได้เห็นยันต์นี้ครั้งแรกก็รู้ได้ทันทีว่า ไม่ใช่ยันต์ขั้นพื้นฐานแน่นอน มีอักขระขอมหวัดอยู่เต็มพื้นที่ในวงกลม และมีสัญลักษณ์แทนองค์พระทั้งสี่องค์อยู่ทั้งสี่มุมของวงกลมด้านใน


คาถาที่ใช้เดินอักขระภายในยันต์ จะใช้คาถา “สุกิตติมา” ซึ่งในสมัยโบราณจะเรียกคาถานี้ว่า “วัวกินนมเสือ”


คาถาสุกิตติมา มีส่วนประกอบของคำแปดคำ ดังต่อไปนี้


สุกิตติมา สุภาจาโร สุสีละวา สุปาคะโต ยัสสะสิมา จะเจธิโร เกสะโรวา อะสัมภิโต


ชื่อเดิมของคาถาบทนี้ที่เรียกกันว่า “วัวกินนมเสือ” ก็เพื่อจะสื่อให้เห็นว่า ขนาดเสือที่เป็นสัตว์ดุร้าย เห็นวัวเป็นอาหาร เมื่อโดนอนุภาพของคาถานี้เข้าไป ก็ยังเชื่องขนาดที่ว่า วัวสามารถเข้าไปดูดนมเสือได้


ประโยคที่ว่า “วัวกินนมเสือ” เป็นประโยคที่ค่อนข้างสับสนในตัวเอง สามารถแปลได้สองความหมาย


ความหมายแรก (ที่คนตั้งชื่อต้องการสื่อความหมาย) คือ วัวสามารถเข้าไปดูดนมเสือได้ โดยที่เสือจะไม่ทำร้ายวัวให้บาดเจ็บหรือตายได้


ความหมายที่สอง คือ วัว (อย่างโหด) ดุกว่าเสือ จนสามารถเข้าไปกัดกินนมและตับไตไส้พุงของเสือได้


เมื่อประโยคที่ใช้มีความหมายคลุมเครือ และด้วยที่คาถานี้ เป็นคาถาทางด้านเมตตามหานิยม การตั้งชื่อคาถาให้ดูไพเราะขึ้น โดยการใช้คำแรกของคาถาที่ว่า “สุกิตติมา”นั้น ดูจะเหมาะสมกว่ามาก


ยันต์สุกิตติมาประกอบด้วยวงกลมสองวง มีเส้นคู่ขีดจากบนลงล่าง และเส้นคู่จากซ้ายไปขวา แล้วทำการแบ่งช่องให้เท่าๆกัน มีทั้งหมด 29 ช่อง


การเดินอักขระในยันต์ จะเป็นลักษณะการไขว้ตัวอักษร โดยเริ่มลงอักขระขอมคำว่า “สุ” ลงตรงช่องจุดศูนย์กลาง และจบคำว่า “สุกิตติมา” ไปทางด้านบน แล้วหมุนยันต์ไปทางซ้ายเพื่อเขียนเวียนไปทางขวา เมื่อลงช่องด้านในหมดแล้ว (ยกเว้นสี่มุมด้านใน) ก็ออกไปลงช่องด้านนอก จนจบบทคาถา แล้วค่อยกลับมาใส่สัญลักษณ์แทนองค์พระที่มุมทั้งสี่ ของด้านใน

ลำดับการลงอักขระในยันต์สุกิตติมา
ยันต์สุกิตติมาเมื่อแปลอักขระขอมหวัดเป็นภาษาไทย














จากการสืบค้น ไม่มีข้อมูลมากพอว่าใครเป็นคนคิดค้นยันต์สุกิตติมาเป็นคนแรก รู้แค่ว่าเป็นยันต์ที่มีที่มาจากทางล้านนา


คาถาสุกิตติมา เป็นคาถาที่ถูกดัดแปลงมาจาก คาถาที่พระสังกัจจายน์ใช้อธิษฐานจิต เพื่อปิดตาเข้าอภิญญอธิษฐานลาภ ด้วยบทที่ว่า “สุกิติมา สุภาจาโร สุปากโต ยัสสสีมา วเจติโร เกสโรวา อสมภิโต”


โดยการแทรกคำว่า “สุสีละวา” เข้าไป และเปลี่ยนคำว่า “วเจติโร” เป็น “จะเจธิโร”


คาถาสุกิตติมาและยันต์สุกิตติมา น่าจะเกิดขึ้นพร้อมๆกัน เพราะลักษณะจากการวางและการใช้คำ เพื่อให้ตัวอักขระในยันต์ มีการไขว้กันได้ โดยให้สี่คำแรกในยันต์ เริ่มต้นด้วยอักขระคำว่า “สุ” เหมือนกัน แล้วจงใจให้อักขระสุดท้ายของสี่คำหลัง ให้เหมือนอักขระสุดท้ายของสี่คำแรก (มา โร วา โต)


สุกิตติมา สุภาจาโร สุสีละวา สุปาคะโต ยัสสะสิมา จะเจธิโร เกสะโรวา อะสัมภิโต


คนที่สามารถคิดค้นยันต์แบบนี้ได้ ต้องมีความรู้ทั้งทางด้านศาสตร์และศิลป์เป็นอย่างดี


การอาราธนายันต์สุกิตติมานี้ ควรตั้งนะโมสามจบก่อนแล้ว แล้วค่อยท่องคาถาสุกิตติมา จะกี่จบก็แล้วแต่ความพอใจ บางที่ให้สวด 100 จบก็มี


ในระหว่างวันก็ให้ท่องคาถาสุกิตติมาไปด้วย เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด จากพุทธคุณของยันต์สุกิตติมา

ดู 11,289 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page